วันเสาร์ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2557


จาก http://www.vulture.com/2014/04/pedro-pascal-oberyn-red-viper-bisexuality-interview.html

            โอเบริน (แสดงโดย เพโดร ปาสคาล) ปรากฏตัวครั้งแรกที่ซ่องของลิตเติ้ลฟิงเกอร์ในภาคล่าสุดของ Game of Thrones แต่ดังที่พวกเรารู้กันจากรอบปฐมทัศน์ของภาคที่ 4 นี้ เขาไม่ได้มาคิงส์แลนดิงเพื่อแสวงหาความสุข เขามาเพื่อแก้แค้นให้แก่ความตายของน้องสาวที่ถูกกระทำอย่างต่ำทรามโดยทหารรับใช้ของตระกูลแลนนิสเตอร์ เกรเกอร์ คลีเกน "นักรบภูผา" ซึ่งเป็นพล็อตสำคัญของซีซั่นนี้

 

โอเบรินเป็นตัวละครโปรดของหลายคนที่อ่านหนังสือ คุณทราบความนิยมของเขามาก่อนที่จะได้รับบทไหม

            ผมไม่เคยอ่านหนังสือแต่เป็นแฟนซีรีย์นี้ และผมก็ไม่ใช่คนที่จะคาดหวังกับปฏิกิริยาของผู้ชมมากเท่าไร ผมมักจะคิดว่า ถ้าทุกคนคาดหวังในตัวละครของผมหรือเขาเป็นคนที่ทุกคนชื่นชอบมากจริงๆ ตอนประกาศชื่อนักแสดง ผู้ชมอาจจะเบือนหน้าหนีหรือหมุนหัวกลับไป 180 องศาเหมือนในหนังเรื่อง The Exorcist เลยก็ได้ (หัวเราะ) บางคนอาจรู้สึกแบบนั้นจริงๆ เพราะพวกเขาไม่รู้จักผม ผมเลยคาดว่าคงจะมีแบบนั้นอยู่บ้างเหมือนกัน แต่ผมก็พยายามเลี่ยงที่จะคิดแบบนั้น เพราะผมมีงานที่ต้องทำและอยากทำให้ดีที่สุดเพื่อเติมเต็มความคาดหวังของผู้ชมต่อการปรากฏตัวของโอเบริน และมันก็สำคัญมากที่จะทำให้แฟนๆ พึงพอใจนะ คุณรู้หรือเปล่า

 

ในซีรีย์ได้ขยายความเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่ถูกกล่าวถึงในนิยายของจอร์จ อาร์. อาร์. มาร์ติน เช่น ความสัมพันธ์ระหว่างเรนลีและลอรัส หรือที่เราเห็นกันตอนนี้ คือ ตัวละครของคุณเป็นไบเซ็กชวล

            Red viper สนุกกับชีวิตของเขา เขาไม่เคยแบ่งแยกเรื่องความปรารถนา นี่เป็นวิถีที่เขาเข้าใจชีวิต นั่นก็คือ การใช้ชีวิตให้ถึงที่สุด การจำกัดตัวเองในการเรียนรู้ประสบการณ์ต่างๆ เป็นเรื่องไร้สาระสำหรับเขา อะไรที่งดงามก็คืองดงาม และผมชอบที่จอร์จ อาร์. อาร์. มาร์ตินสร้างตัวละครที่มีการพัฒนาและมีความสวยงามแบบนี้ออกมา เขาเป็นทั้งนักรักและนักรบ เขาทำทุกๆ สิ่งอย่างเต็มที่ แล้วทำไมถึงต้องเลือกระหว่างเพศหญิงกับเพศชายด้วยล่ะ คุณรู้นะว่าผมหมายถึงอะไร นั่นคือเหตุผลที่ทำไมตัวละครที่จอร์จ อาร์. อาร์. มาร์ตินสร้าง และเดวิดกับแดนแสดงออกมาให้เห็นในหน้าจอโทรทัศน์ถึงได้ออกมางดงามนัก เขาก็แค่เหมือนพวกพังก์ร็อคจัดจ้านเท่านั้นเอง มันไร้สาระที่จะจำกัดความสุขของตัวเอง ไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลย แต่มันก็เป็นตามนั้นจริงๆ ไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธสิ่งสวยงาม ไม่ว่าจะไวน์หรืออาหาร ผู้ชายหรือผู้หญิง หรือแม้แต่การเป็นพ่อคน นักรัก หรือนักรบ ใช้ชีวิตให้ถึงที่สุดเสมอ ผมคิดว่านั่นเป็นสิ่งที่ฉลาดมาก เป็นสิ่งที่เรื่องราวได้ค่อยๆ สื่อผ่านออกมา พวกเขาพยายามที่จะใช้โอกาสในการส่งข้อความเหล่านี้ให้แก่ทุกคน

 

Game of Thrones ทะลายทุกกรอบด้วยฉากเซ็กส์ แต่ดูเหมือนพวกเรากำลังดำเนินไปสู่ฉากใหญ่ยิ่งกว่า ด้วยฉากที่โอเบรินและคนรักของเขากำลังเลือกสรรบรรดาสาวๆ

          นั่นเป็นฉากแรกที่เป็นแบบหมู่เหรอ ไม่สิ เดี๋ยวก่อน จะเป็นไปได้ยังไงกัน!  ไม่ใช่ว่าบรอนน์ก็มีฉากแบบนี้ไปแล้วเหรอ ก็ใช่ เขาเคยควบสองมาก่อน แต่ถ้าคุณพูดถึงเซ็กส์หมู่แบบหลากเพศ งั้นนี่คงเป็นฉากแรกจริงๆ ตอนถ่ายฉากนั้นพวกเราหัวเราะกันตลอด เราทุกคนพยายามสนุกกับมันเท่าที่จะเป็นไปได้ ถ้ามีใครสักคนรู้สึกอึดอัด ความรู้สึกนั้นจะถูกปัดเป่าออกไปด้วยความเร่าร้อนของทุกคน ไม่มีใครตัวคนเดียวในนี้ มันเป็นเรื่องน่ายินดีนะครับ ผมชอบครับ

 

สำหรับฉากนู้ดต่อๆ ไป คุณโชว์หมดเลยหรือเปล่า เพราะมีหลายเสียงที่เรียกร้องให้มีฉากเปลือยของผู้ชายมากขึ้น

            ไม่มีใครบอกให้ผมปกปิดอะไรเลยนะ ผมเต็มที่เลย ตั้งแต่เมื่อไรกันที่ Game of Thrones ทำให้คุณผิดหวังกับเรื่องใดเรื่องหนึ่ง พวกเขาให้อาหารสายตากับทุกฝ่าย ผมยืนยันได้เลย

 

ซึ่งนั่นก็ทำให้นักแสดงหลายคนรู้สึกกดดัน...

            เพราะผมเป็นคนเริ่มให้อาหารสายตาแก่ผู้ชายงั้นเหรอ จริงๆ มันก็กดดันอยู่นะ ไม่รู้สิ ผมไม่เคยคิดแบบนั้นมาก่อนเลย แต่ตอนนี้เริ่มคิดแล้ว (หัวเราะ)

 

และตอนนี้คุณก็เป็นที่ต้องการของทั้งผู้ชายและผู้หญิง

          หวังว่าอย่างนั้นนะ ผมว่ามันเป็นเรื่องดี ตอนนี้ผมแค่หวังว่ามันจะเกิดขึ้นจริง เพราะนั่นเป็นสิ่งที่โอเบรินควรจะเป็น 

 

แล้วก็มีฉากที่คนรักของคุณพูดว่า "ฉันเป็นลูกนอกสมรส ส่วนเธอเป็นโสเภณี"

          ใช่! เหมือนกับว่า อย่ามาพูดไม่เป็นเรื่องน่า ตัดเข้าเรื่องเลยดีกว่า ซึ่งเป็นสิ่งที่โอเบรินก็ทำเหมือนกัน เขาไปที่นั่นและไม่ยอมเสียเวลาเปล่า "นี่คือเหตุผลที่ฉันมาที่นี่ นี่คือสิ่งที่ฉันจะทำ และ...ฉันกำลังจะสนุกกับมัน"

 

แม้แต่ที่งานแต่งงานของแลนนิสเตอร์น่ะเหรอ

          แค้นที่ผมจะมาชำระไม่ได้เกี่ยวกับจอฟฟรีย์ เพราะฉะนั้นเขาไม่ใช่ธุระของผม แต่ผมไม่มีทางคบหากับคนแบบนั้นแน่ (หัวเราะ)

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น