วันพฤหัสบดีที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2557


กลับมาพบกับบทสัมภาษณ์ริบุซังกันอีกครั้งนะคะ (อีกแล้ว 55)
คราวนี้มากัน 3 คนเลย ทั้งริบุซัง มิกิโตะP และ 40mP
บทสัมภาษณ์นี้นอกจากจะคุยถึงอัลบั้มใหม่ริบุซังที่เพิ่งวางขายไปแล้ว
ยังมีประเด็นน่าสนใจให้อ่านกันอีกเยอะเลย ไม่ว่าจะเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของโวคาลอยด์P และอุไทเทะ
หรือเรื่องราวเกี่ยวกับ nico nico douga ที่น่าสนใจอีกหลายอย่าง
บทสัมภาษณ์ทั้งเนื้อหาและรูปภาพครั้งนี้นำมาทางจากเว็บ natalie นะคะ
สามารถตามไปอ่านบทสัมภาษณ์ภาษาญี่ปุ่นได้ ที่นี่
 และขอฝากอัลบั้ม Riboot ไว้ด้วยนะคะ มันคุ้มค่ามากจริงๆ  
อัลบั้มนี้ดีกรีถึงอันดับ 2 Oricon Weekly Chart ตั้งแต่สัปดาห์แรกที่วางขายเลยนะ
ไม่สนไม่ได้แล้ว!!
ชักสงสัยว่าใครเจ้าของอัลบั้มกันแน่ 55



Limited Edition : Amazon
Normal Edition : Amazon

โวคาลอยด์P ก็อยู่กับโวคาลอยด์P อุไทเทะก็อยู่กับอุไทเทะ
________________________________________________________________________
──จริงๆ แล้วทาง Natalie ก็เพิ่งเคยได้สัมภาษณ์โวคาลอยด์P กับอุไทเทะพร้อมกันครั้งนี้เป็นครั้งแรกนะครับ 
ริบุ : อ้ะ อย่างงั้นเหรอครับ

──เพราะฉะนั้นก่อนเข้าเรื่องอัลบั้ม อยากทราบว่าปกติแล้วโวคาลอยด์P กับอุไทเทะสนิทสนมกันขนาดไหน
ทุกคนว่ายังไงกันบ้าง
ริบุ : มิกิโตะPแต่งเพลงให้ผมเป็นครั้งที่ 3 แล้วครับ ถ้าเป็นเรื่องงานก็พอได้เจอกันบ้าง แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกเลย
ที่ทั้งมิกิโตะP และ 40mP มาช่วยดูตอนอัดเสียงให้ ส่วนถ้านัดพบกันส่วนตัวก็...อ้ะ เคยไปดื่มด้วยกันครั้งหนึ่งครับ
มิกิโตะP : ใช่ครั้งนั้นหรือเปล่า ถ้าครั้งนั้นล่ะก็ส่วนตัวแน่ๆ ล่ะ
ริบุ : ใช่ครับ แต่โอกาสพบกันก็ยังน้อยอยู่
มิกิโตะP : ผมไม่ค่อยเห็นโวคาลอยด์P กับอุไทเทะที่สนิทกันมากๆ เลยนะ แน่นอนว่ามีคนที่สนิทกันอยู่บ้าง 
เจอกันเป็นประจำก็มี แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่เป็นแบบนั้นหรอกครับ
40mP : แต่ไหนแต่ไร ผมก็ไม่ค่อยมีเพื่อนโวคาลอยด์P อยู่แล้ว (หัวเราะ) แต่สำหรับผมแล้ว อุไทเทะก็มีชีวิตอยู่
ในอีกโลกที่ผมไม่รู้จักเหมือนกันครับสำหรับโวคาลอยด์Pแล้ว คนที่แต่งเพลงหรือคนที่มีความชอบเหมือนๆ กัน
ก็ยังมีอยู่ค่อนข้างเยอะ แต่ถ้าถามว่าปกติอุไทเทะเขาใช้ชีวิตแบบไหนกัน ผมก็จินตนาการไม่ค่อยออกเหมือนกันนะ
ริบุ : จริงครับ โวคาลอยด์P ก็มักจะคบกับโวคาลอยด์P ส่วนอุไทเทะก็มักจะอยู่กับอุไทเทะด้วยกันเองมากกว่า
อย่างใน EXIT TUNES ACADEMY ถึงจะเป็นไลฟ์อีเว้นท์ของทั้งสองฝ่าย...
มิกิโตะP : อย่างตอนนั้น โวคาลอยด์P ก็ยังอยู่กับโวคาลอยด์P เหมือนเดิม
ริบุ : ใช่ครับ ในห้องแต่งตัว โวคาลอยด์P ก็จะจับกลุ่มคุยกันเรื่องอุปกรณ์หรือซอฟท์แวร์ ส่วนอุไทเทะก็จะคุยกัน
เรื่องวิธีร้อง



"Utattemita" ก็เหมือน street live
__________________________________________________________________________
──เข้าใจแล้วครับ มาคุยกันต่อเรื่องอัลบั้มใหม่ริบุซังกัน หลังอัลบั้มเก่าวางขายไปก็ผ่านมา 1 ปี 3 เดือนแล้ว
อัลบั้ม Riboot นี้เริ่มต้นเป็นมายังไงบ้างครับ
ริบุ : หลังจากอัลบั้ม Rib on วางขายเมื่อเดือนกันยายน 2 ปีก่อน ผมก็มีเรื่องยุ่งๆ มาตลอด เลยไม่ค่อยได้ทำ
กิจกรรมเหมือนอุไทเทะทั่วไปเสียเท่าไร พอเริ่มมีเวลาบ้างก็เลยกลับมาเป็นอุไทเทะได้ แล้วช่วงนั้นมีคนมา
คุยเรื่องอัลบั้มที่ 2 พอดี ผมเลยตอบรับไปครับ
 
──ปกติอุไทเทะจะเริ่มจากการอัพวิดีโอลง utattemita ใน nico nico douga ถ้าเทียบกันแล้วตอนนี้ก็ค่อนข้าง
ใกล้เคียงกับมืออาชีพหรือเมเจอร์อาร์ทิสต์ที่ได้ออก CD และแสดงสดเลย แต่ก็ไม่ได้เหมือนกันเสียทีเดียว
ริบุซังคิดว่ายังไงบ้างครับ
ริบุ : สำหรับผมแล้วไม่ใช่เลยครับ เป็นคนละเรื่องกันเลย ที่ทำให้ผมมาเป็นอุไทเทะในวันนี้เริ่มตั้งแต่สมัยผมเป็น
นักเรียนได้ร้องเพลงที่โวคาลอยด์P แต่งเหมือนได้ร้องคาราโอเกะแล้วก็เอามาอัพโหลดบนอินเทอร์เน็ต
ผมคิดว่า "ก็น่าสนุกดีนะ" สำหรับผม "Utattemita" ก็เหมือน street live ที่ใช้อินเทอร์เน็ตแทนพื้นที่แสดง
พอเป็นอินเทอร์เน็ตแล้ว อะไรๆ ก็ง่ายกว่าการร้องตามไลฟ์เฮาส์หรือตามท้องถนน ไม่ต้องไปแจกจ่ายซีดีให้
แต่ละแผ่นๆ เหมือนแต่ก่อน เพราะทุกคนก็สามารถฟังได้บนอินเทอร์เน็ต ถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าดีครับ

──ถ้าพูดถึง street live อย่าง Yuzu (นักร้องดูโอที่โด่งดังจากการเล่นดนตรีเปิดหมวก) ก็ได้ไปเล่นกีตาร์
แสดงสดที่โยโกฮาม่า แต่หลังจากเมเจอร์เดบิวท์ สำหรับนักดนตรีแล้วคงเปลี่ยนไปพอสมควร
ทั้งความคิดปัจจุบันเทียบกับสมัยที่ทำ street live และสิ่งแวดล้อมต่างๆ ด้วย เลยคิดว่าช่วงเวลา 1 ปีที่ผ่านมา
ริบุซังคงจะมีความคิดอะไรที่เปลี่ยนไปบ้าง
ริบุ : นั่นสินะครับ ผมก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าตอนที่ Yuzu ซังแสดง street live จะมีความรู้สึกแบบไหน แต่ตัวผม
เริ่มร้องเพลงจากความชอบส่วนตัว ตอนนี้ก็ไม่มีความตั้งใจจะเปลี่ยนความคิดจากตรงนั้นหรอกครับ แต่พอมี
คนฟังมากขึ้นรอบๆ ตัวก็เปลี่ยนไป รู้สึกว่า "ว้าว นี่มันเป็นกลายเป็นเรื่องสุดยอดไปแล้ว" จะว่าเกร็งขึ้นก็ไม่เชิง
ทำให้ผมต้องเรียนรู้เพิ่มขึ้นอีกมากกว่า

จุดเปลี่ยนของเรื่องราว จากปี 2009 ถึงปี 2010  
__________________________________________________________________________
──ตอนแรกก็เริ่มจากความสนใจ กึ่งจริงกึ่งเล่น แต่พอเริ่มเป็นที่รู้จัก บางคนก็ผันตัวไปเป็นครีเอเตอร์บ้าง
นักดนตรีบ้าง คิดว่าสำหรับโวคาลอยด์P ก็คงไม่ต่างกัน คุณ 40mP คิดว่าอย่างไรบ้าง
40mP : เหมือนกันเลยครับ ผมชอบ Yuzu ซังที่เพิ่งพูดถึงเมื่อกี้มากครับ ตอนม.ปลายผมก็เคยแสดง street live
อยู่หลายครั้ง แต่ไม่ค่อยเป็นที่สนใจ ไม่ค่อยมีคนหยุดดูเท่าไร ถ้าตามท้องถนน ยังไงคนก็จะไปรุมดูนักร้อง
หรือนักดนตรีเก่งๆ แสดงกันมากกว่า แต่ถ้าใช้ Hatsune Miku หรือ GUMI ก็จะได้แสดงให้เห็นถึงตัวเพลงดีๆ ได้
ผมเลยทดลองอัพโหลดวิดีโอดู
มิกิโตะP : ในกรณีของผมอาจไม่ได้เริ่มจากความสนใจหรือกึ่งจริงกึ่งเล่นเสียเท่าไร ตอนแรกก็อยากทดสอบ
ความสามารถตัวเอง แต่หลังจากทำไป 3 เพลงก็เริ่มรู้สึกว่า "เริ่มจริงจังเถอะ"

──อย่างนี้นี่เอง แต่อาจเป็นเพราะทั้งสองคนเริ่มต้นในช่วงเวลาที่ต่างกันหรือเปล่า คุณ 40mP และคุณมิกิโตะP
เริ่มมีผลงานครั้งแรกเมื่อไร
40mP : ของผมฤดูร้อนปี 2008 ครับ
มิกิโตะP : ของผมหลังจากนั้นหน่อยครับ น่าจะเดือนมีนา 2010 หรือเปล่านะ

──นั่นสินะ สำหรับผมแล้วช่วงปี 2009 ถึง 2010 เป็นจุดเปลี่ยนของโวคาลอยด์และ nico nico douga เลยนะ
มิกิโตะP : จริงด้วยครับ ค่อยๆ มีคนแบบผมเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ แล้ว (หัวเราะ)
40mP : เป็นช่วงปีที่อยู่ๆ งานทุกคนก็อัพคุณภาพขึ้นมาทันตาเลย

──ใช่แล้ว ต่างจากคุณ 40mP ที่เริ่มผลิตผลงานครั้งแรกปี 2008 ครีเอเตอร์ที่มีชื่อเสียงขึ้นมาช่วงปี 2010
ก็มีเหมือนกัน เพราะฉะนั้นเหมือนตอนที่คุณมิกิโตะP เพิ่งเริ่มต้น พวกครีเอเตอร์ก็จะตั้งเป้าหมายกันว่า
"ถ้าคนพวกนั้นยังพัฒนาได้ทำไมเราจะทำไม่ได้" แบบนั้นหรือเปล่า เหมือนเป็นผลมาจากความชื่นชมกับ
ความรู้สึกแข่งขันผสมกัน
มิกิโตะP : คงจะเป็นแบบนั้นแหละครับ เพราะฉะนั้นเลยมีความรู้สึกอยากทดสอบความสามารถตัวเองดู
อยากรู้ว่า "ทุกคนคิดยังไงกับเพลงของผมบ้าง" ประมาณนั้นครับ


รู้สึกว่าทุกคนมีอุปกรณ์ราคาแพงเพิ่มขึ้น __________________________________________________________________________
──แล้วริบุซังล่ะ ใน nico nico douga ก็มี utattemita มาตั้งแต่สมัยแรกๆ แล้ว ตอนนี้มีอะไรที่เปลี่ยนไปจาก
ตอนนั้นบ้างหรือเปล่า
ริบุ : ผมว่า utattemita ก็มีจุดเปลี่ยนไม่ต่างจากเพลงโวคาลอยด์นะครับ ช่วงปี 2007-2008 ก็มีเพลง
Lantis Kumikyoku ที่โกมุซัง อิซาจิซังร้องกันสนุกๆ ผมเองก็ชอบแบบนั้นเลยฟังมาตลอด หลังจากผมเริ่มลงงาน
เพลงปี 2010 ก็มีความรู้สึกชื่นชมปนๆกับความรู้สึกอยากแข่งขันอยู่เหมือนกัน แต่ก่อนผมก็เคยร้องเพลงในวง
แต่ก็รู้สึกว่า "จะไปได้ไกลแค่ไหนกัน?" เลยลองผิดลองถูกมา คิดว่าค่อยๆ พัฒนา ไต่บันไดขึ้นมาเรื่อยๆ
แหละครับ
มิกิโตะP : ไม่ใช่แค่โวคาลอยด์หรือ utattemita แต่กลุ่มอื่นๆ ก็เป็นแบบนั้นเหมือนกัน odottemita ก็ด้วย
ryouri tsukuttemita (ลองทำอาหารดู) ก็ไม่ต่าง รู้สึกว่าทุกคนมีอุปกรณ์ราคาแพงเพิ่มขึ้น (หัวเราะ)
เทคนิคต่างๆ ก็พัฒนาขึ้นด้วย
40mP : จริงครับ วิดีโอก็ภาพสวย พวกซับไตเติ้ลก็อลังการขึ้น
มิกิโตะP : เดี๋ยวนี้ nico nico ก็เริ่มเป็นแบบนั้นหมดแล้วหรือเปล่านะ

──จริงด้วย คิดว่านี่เป็นจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่เลยนะ แต่ที่มาบูมเอาช่วงปี 2009-2010 คงเพราะก่อนหน้านั้น
nico nico douga ไม่เป็นที่ชื่นชอบกันเท่าไร ทุกคนจะมีความรู้สึกด้านลบกับการหาเงินจากมือสมัครเล่น
คุณคาวาคามิ โนบุโอะ ประธานบริษัท dwango เลยไปคุยกับ JASRAC (สมาคมคุ้มครองสิทธินักประพันธ์ คนแต่งเพลงและ 
สำนักพิมพ์ แห่งญี่ปุ่น) เกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนและลิขสิทธิ์ เลยออกข้อตกลงมาว่า "ผู้สร้างเว็บจะได้รับผลประโยชน์จากเนื้อหา
ที่โพสต์ในอินเทอร์เน็ต"
ริบุ : จริงด้วยครับ ผมไม่เคยได้ยินเรื่องนั้นมาก่อนเลย พวกผมเองก็ไม่ได้คิดอะไร ได้รับอิทธิพลต่อๆ กันมาเลยคิด
ว่าการเพิ่มคุณภาพงานคงเป็นเรื่องดีก็แค่นั้น ไม่ได้สนว่าจะเอื้อประโยชน์ให้ใครหรือเปล่า
40mP : ผมก็อยู่มาประมาณ 5-6 ปีแล้ว จากประสบการณ์ของผม มันไม่ใช่ว่าอยู่ๆ ทุกคนก็เปลี่ยนความคิดกันทันที
ทันควัน แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงแบบค่อยเป็นค่อยไปมากกว่า อย่าง 5 ปีที่แล้ว ครั้งแรกที่ผมออก CD ในงาน
Vomas (Vocaloid Master) ก็เคยคิดเหมือนกันว่า "ทำ CD ออกมาจะดีเหรอ" ช่วงนั้นมีโวคาลอยด์P ทำ CD ออก
มาในเชิงพาณิชย์แค่ supercell กับคุณ kz เท่านั้นเองครับ เลยได้รู้ว่ากระบวนการผลิตมันยากลำบากแค่ไหน
หลังจากนั้นโวคาลอยด์ก็เริ่มแพร่หลายไปทั่วโลก คนทั่วไปก็เริ่มยอมรับกันมากขึ้น เลยรู้สึกว่ามันค่อยๆ เปลี่ยน
แปลงไปทีละเล็กละน้อยครับ

 ──ตอนนี้ก็ไม่ใช่ที่ๆ มีแต่มือสมัครเล่นเท่านั้นแล้ว
ริบุ : ใช่ครับ เมื่อไม่นานมานี้ก็มีทาคิซังจากวง 9mm Parabellum Bullet ทำเพลงโวคาลอยด์ออกมา
คุณโคบายาชิ ซาจิโกะก็มาลงผลงานใน utattemita กลายเป็นเรื่องที่ดูยิ่งใหญ่ไปเลยครับ แล้วยังมีนิตยสาร
Utattemita no Hon ออกมาด้วย การที่ผมได้ลงนิตยสารเล่มเดียวกับคุณโคบายาชิ ซาจิโกะเป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อ
เลยครับ
มิกิโตะP : ดูคุณโคบายาชิ ซาจิโกะก็สนุกกับมันนะ คงเพราะได้ทำงานกับคนอายุน้อยกว่าในงานดนตรีด้วยกัน
ถ้าหลังจากนี้อีก 10 ปีผมยังทำเพลงอยู่ เรื่องแบบนั้นก็คงจะช่วยเป็นแรงผลักดันให้ผมอยู่เหมือนกัน

นักแต่งเพลงที่น่าจะดึงความสามารถของผมออกมาได้ ________________________________________________________________________
──กลับมาที่อัลบั้ม Riboot กันต่อ คราวนี้ได้เสนอเพลงคอนเซ็ปท์แบบไหนบ้าง
ริบุ : ยังไงก็เลือกนักแต่งเพลงที่ผมชอบนั่นแหละครับ ผมเลือกคนที่จะแต่งเพลงเพราะๆ ให้ผมได้ร้อง
นักแต่งเพลงที่น่าจะดึงความสามารถของผมออกมาได้ ผมมีรายชื่อคนที่ชอบไว้ในใจแล้วก็เลือกจาก
จำนวนนั้นออกมา ช่วงนี้ในนิโกะโดวจะมีเพลงที่มีจังหวะแบบที่กำลังเป็นที่นิยมกัน ผมเลือกจากคนที่แต่งเพลง
เหล่านั้นออกมา แล้วสุดท้ายผมก็เลือกนักแต่งเพลงที่ยึดมั่นในทางของตัวเอง สร้างผลงานดีๆ ออกมาให้ได้
ฟังกันเยอะๆ

──อย่างนั้นเอง มาทางฝ่ายนักแต่งเพลงบ้าง เพลงที่แต่งให้ครั้งนี้ได้ดึงเอาส่วนที่เป็นเสน่ห์ของนักร้องออกมา
ยังไงบ้าง
40mP : ส่วนใหญ่เวลาผมแต่งเพลงก็มักจะจินตนาการเสียงของใครสักคนในหัวอยู่แล้ว ส่วนใหญ่ก็เป็นศิลปิน
ที่ผมชอบ แต่ถ้าจะแต่งเพลงให้อุไทเทะสักคนหนึ่ง ก็แน่นอนว่าจะต้องนึกถึงเสียงคนๆ นั้นในหัว เพราะฉะนั้น
ครั้งนี้เลยแต่งเพลงที่คิดว่าเมโลดี้และเนื้อหาน่าจะเหมาะกับริบุซังมากที่สุด ตอนอัดเสียงผมก็มีโอกาสได้เข้าไป
ช่วยด้วยเหมือนกัน ริบุซังก็ทำออกมาได้เป็นรูปเป็นร่างค่อนข้างชัดเจน สุดท้ายเลยได้เพลงที่ออกมาตรงกับ
สิ่งที่ผมคิดไว้
ริบุ : ขอบคุณครับ
40mP : ริบุซังมีเสียงที่เพราะจริงๆ ครับ ผมเลยอยากแต่งเพลงที่ได้ยินเสียงชัดๆ เมโลดี้ที่ง่ายๆ และผมก็ถนัด
แต่งเนื้อเพลงที่สื่ออย่างตรงไปตรงมาอยู่แล้วเลยแต่งเพลงออกมาแบบนี้

──แล้วมิกิโตะP ล่ะครับ
มิกิโตะP : ผมชอบเพลงที่ริบุซังร้องนะครับ แต่ผมก็ยังไม่สามารถแต่งเพลงให้เข้ากับอุไทเทะคนใดคนหนึ่งได้
ผมยังไม่มีความสามารถขนาดนั้น ก็เลยเอาง่ายๆ "เดี๋ยวจัดเพลงของผมให้ละกัน" เป็นแบบนั้นเสียมากกว่าครับ
ตอนแต่งเพลง Sarishinohara ก็เหมือนกัน ถ้าจะพูดง่ายๆ ก็คือ ผมก็แต่งเพลงของผมไป หลังจากนั้นก็ค่อยไป
คุยกันต่ออีกที ส่วนเพลงครั้งนี้ก็มีความเกี่ยวข้องกับเพลงนั้นอยู่ด้วย



เพราะ nico nico douga เป็นที่ๆ ไม่มีกฎเกณฑ์จึงสนุก
_______________________________________________________________________
 ──คุณมิกิโตะP ก็ได้ออกอัลบั้ม Miki uta ที่ให้อุไทเทะหลายท่านมาร้องเพลงของตัวเองไปก่อนหน้านี้ คิดภาพ
ไว้ยังไงกับการให้อุไทเทะมาร้องเพลงของตัวเอง
มิกิโตะP : ก่อนหน้านี้ก็เคยให้สัมภาษณ์กับทาง Natalie ไว้แล้ว (จาก : http://natalie.mu/music/pp/mikitop)
ว่าช่วงที่ผมเริ่มหันมาหาโวคาลอยด์เป็นช่วงที่ผมกำลังคิดว่า "จะเลิกเล่นดนตรีดีไหมนะ" จะให้ผมร้องเองก็ไม่ได้
ชอบอะไรขนาดนั้น ตอนนั้นคิดว่าคงไม่ไหวแล้วล่ะ แต่ก็มี Hatsune Miku มีโวคาลอยด์มาสื่อความรู้สึกแทนผมได้
เพราะฉะนั้นอาจจะพูดเกินจริงไปหน่อย แต่แค่มีใครสักคนร้องเพลงของผมแล้วได้เปิดโลกใบนั้นออกมา ผมก็รู้สึก
ดีใจมากแล้วล่ะครับ นอกจากนั้นก็มีอุไทเทะที่คิดว่า "ร้องแล้วสนุกจังนะ" หรือ "อยากลองไปในเส้นทางสายดนตรี
ดูบ้าง" หรือจะแค่อยากสนุกกับมันก็ตาม แค่มีความคิดที่หลากหลายแบบนั้นเกิดขึ้น ตัวผมเองก็รู้สึกดีใจแล้วครับ
40mP : นั่นสินะ ตัวผมเองก็อยากแต่งเพลงมาก่อนแล้ว แต่หาคนรอบๆ ตัวมาร้องไม่ได้เลย ตัวผมเองก็ร้องไม่เป็น
ด้วย เลยเริ่มใช้โวคาลอยด์มาแต่งเพลง ตอนแรกก็ตั้งใจจะใช้โวคาลอยด์เป็นเสียงร้อง แต่ตอนนี้มี Niji iro
Orchestra ได้ทำดนตรีสดๆ ร่วมกับอุไทเทะ เพราะฉะนั้นการให้คนอื่นมาร้องเพลงให้เป็นความปรารถนาอีก
อย่างหนึ่งของผม พอมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นทำให้ผมรู้สึกดีใจมากครับ

──อย่างนี้นี่เอง อยากจะถามคำถามเดียวกันกับริบุซังด้วย คิดยังไงกับการที่อุไทเทะร้องเพลงของโวคาลอยด์P
ริบุ : นั่นสินะ ถึง 40mP กับมิกิโตะP จะมองในแง่ดี แต่ก็มีคนที่ไม่อยากร้องเพลงให้โวคาลอยด์P อยู่เหมือนกัน
ถ้าจะไปร้องให้เป็นการส่วนตัว บางคนก็ไม่ค่อยสะดวกใจเท่าไร ถ้าจะให้พูดแล้ว utattemita ก็เหมือน
งานสร้างสรรค์ต่อเนื่องอย่างหนึ่ง (Translator's note : งานสร้างสรรค์ต่อเนื่อง หรือ derivative works คือ การแปล 
การดัดแปลง  การเรียบเรียงดนตรี และการแก้ไขเปลี่ยนแปลงงานวรรณกรรมหรืองานศิลปะแขนงอื่นๆ) ไม่ใช่ว่าจะอัพอะไรแล้วต้องถาม
คนแต่งว่า "ร้องเพลงนี้ได้ไหม" "อัพอันนี้ได้ไหม" จะดีจะแย่ก็กลายเป็นแบบนั้นไปแล้ว ทุกคนก็ทำแบบนั้นกันมาตลอดครับ

──กลายเป็นวัฒนธรรมไปแล้ว
มิกิโตะP : ไม่ใช่ว่าอุไทเทะกับโวคาลอยด์P จะไม่ลงรอยกันอะไรหรอกนะครับ แต่ก็ยังมีส่วนที่เป็นปัญหาอยู่
พอสมควร อุไทเทะก็มีปัญหาส่วนตัวกันอยู่บ้าง ไม่มีตัวแทนอุไทเทะหรือโวคาลอยด์P มาแสดงความเห็นอะไร
ถ้ามองจากภายนอกแล้วก็ยังดูมีปัญหาคลุมเครือกันอยู่ แต่ก็รู้สึกว่า "ก็เรื่องแค่นั้นไม่ใช่เหรอ" ไม่ใช่ว่ามีกฎเกณฑ์
ตายตัวกำหนดให้ทำตามเสียหน่อย

──ถ้าเกิดงานสร้างสรรค์ต่อเนื่องนั้นได้รับการยอมรับอย่างทั่วถึงก็จะกลายเป็นวัฒนธรรมที่ทำต่อๆ กันไป
มิกิโตะP : ใช่แล้วครับ utattemita ก็มีส่วนร่วมในฉากที่เราสร้างขึ้นมาร่วมกันนี้ ถ้าไม่มี utattemita ก็คงไม่เป็น
ที่รู้จักขนาดนี้ ทุกคนร่วมกันสร้างฉากนี้ขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว มันเป็นเรื่องที่น่าสนใจดีนะครับ
40mP : ผมคิดว่าเพราะ nico nico douga ไม่ได้มีกฎเกณฑ์ตายตัวอะไร ถึงได้เป็นที่ๆ มีเรื่องสนุกเกิดขึ้นมากมาย
ที่โวคาลอยด์เป็นที่นิยมขึ้นมาได้ ที่ utattemita มีคนสนใจเยอะขนาดนี้ แล้วสามารถเชื่อมกันได้ ผมคิดว่าก็เพราะ
nico nico douga เป็นสถานที่แบบนั้น เพราะฉะนั้นการพูดว่า "จะร้องเพลงนี้ก็ได้นะ" หรือ "อันนี้ไม่ได้นะ"
เราไม่ได้กำหนดไว้แบบนั้น ตามหลักแล้วจะทำอะไรก็ได้ ถ้าคนร้องให้เกียรติเพลงที่ร้อง คนแต่งเพลงไม่ทะนงตัว
เกินไป ถ้าทุกอย่างอยู่ในความพอดี ความสมดุลก็คงจะไม่เสียไป ต่อจากนี้ไปถ้าสามารถคงความรู้สึกแบบนี้ได้
ไม่จำเป็นต้องมีกฏเกณฑ์มากำหนด และสามารถสนุกกับมันได้ก็คงจะดีนะครับ

──ก็คงจะเป็นแบบอย่างที่พูดกันนะครับ
40mP : ถึงแม้ว่าปัญหามันจะใหญ่ขึ้น หลายอย่างที่เกี่ยวข้องจะเปลี่ยนไป หรือมีการตั้งกฎระเบียบขึ้นมา
ก็ยังอยากให้ทุกคนรู้สึกว่า 'เพราะมีเพลงดีๆอยู่เลยอยากร้อง' ให้หลงเหลือจิตใจที่บริสุทธิ์แบบนั้นไว้
ผมเชื่อว่าทุกคนจะสามารถสร้างสรรค์ผลงานดีๆ ให้เพิ่มมากขึ้นต่อๆ ไปได้แน่นอน



ไม่ค่อยได้คิดถึงเรื่องที่อยู่ข้างหน้า 
_______________________________________________________________________
──เข้าใจแล้วครับ สุดท้ายนี้ ช่วยเล่าให้ทุกคนฟังถึงปณิธานในปี 2014 นี้ได้ไหม
มิกิโตะP : ผมไม่ถนัดเรื่องตั้งปณิธานเลยจริงๆ (หัวเราะ) ผมไม่ค่อยได้คิดถึงเรื่องที่อยู่ข้างหน้าเท่าไร
ผมจะเห็นแต่สิ่งที่กำลังทำอยู่ตรงหน้าเท่านั้น อย่างแรกที่ทำในปี 2014 ก็คือ Mikiuta one man live ที่ผมได้
เชิญอุไทเทะมาด้วย ตอนนี้แค่คิดว่าจะทำยังไงให้มันออกมาสนุกดีแค่นั้นเองครับ ต้องขอโทษด้วยจริงๆ (หัวเราะ)
40mP : จริงๆ แล้วผมก็เหมือนกัน (หัวเราะ) ไม่ค่อยได้คิดถึงเรื่องในอนาคต ผมยึดติดอยู่แต่ว่าจะทำเพลงให้
ออกมาดีได้ยังไง สนใจอยู่แค่นั้นครับ และ Niji iro orchestra คงเป็นที่ๆ ดีที่สุดที่ผมจะแสดงมันออกมาให้เห็นได้
จนกว่าจะถึงเดือนมีนาคมที่เพิ่มรอบแสดง ผมก็อยากจะทำอะไรสักอย่างให้มันประสบความสำเร็จ แต่ที่สำคัญกว่า
คำปณิธานใดๆ ผมอยากจะแต่งเพลงให้ดีขึ้นกว่าเพลงทั้งหลายที่ผมเคยแต่งมาแม้จะสักเล็กน้อยก็ยังดี
ตอนนี้การสร้างผลงานคือแรงบันดาลใจของผมครับ

──อย่างนี้นี่เอง แล้วริบุซังล่ะ
ริบุ : ผมก็เหมือนทั้ง 2 คนเลยครับ (หัวเราะ) การตั้งเป้าหมายแล้ววางแผนทำให้สำเร็จอะไรแบบนั้น
สุดท้ายแล้วผมก็ล้มเหลวทุกที ตอนนี้ผมแค่ตั้งใจว่าจะทุ่มเทอย่างเต็มที่กับสิ่งที่มีอยู่ตรงหน้าให้ดีที่สุดครับ

──ถึงจะเป็น 3 คนที่แตกต่างกัน แต่เรื่อง "ไม่ได้คิดถึงเรื่องที่อยู่ข้างหน้า" และ "พยายามเต็มที่กับเรื่องที่
อยู่ตรงหน้า" กลับคิดเหมือนกันเลย
ริบุ : (หัวเราะ) แม้เวลาจะผ่านไปหรือสิ่งแวดล้อมต่างๆ จะเปลี่ยนไปก็ตาม ผมคิดว่าผมก็ยังจะร้องเพลงต่อไป
ตอนนี้อุไทเทะก็กำลังบูมอยู่มาก ด้วยเหตุนั้นจึงต้องขอขอบคุณที่ทำให้ผมได้มีโอกาสออกอัลบั้มหรือได้รับ
คำเชิญไปแสดงสดผมรู้สึกประสบความสำเร็จมากครับ เพราะฉะนั้นเลยไม่อยากปล่อยให้โอกาสหลุดลอยไป
ในตอนนี้

【Crossfade】 Riboot / Rib 【8.01.2014 Release】 
________________________________________________________________________
    
 
 

1 ความคิดเห็น:

  1. อ่านแล้วชอบความคิดของทั้งสามคนมากๆเลยค่ะ
    คนตั้งคำถามเข้าใจถามดีนะคะ เพิ่งรู้อะไรหลายๆอย่างจากบทสัมถาษณ์นี้เยอะแยะเลย
    ที่ชอบที่สุดก็ข้อสุดท้ายนี่แหละค่ะ พูดไม่ถูกแต่ส่วนตัวประทับใจมากๆ

    สุดท้ายนี้ขอบคุณคุณพลอยที่แปลบทสัมภาษณ์ให้อ่านจริงๆค่ะ><

    ตอบลบ